(tr)uSDX

uSDX Project เริ่มต้นจากการปรับปรุง QCX ซึ่งเดิม เป็นเครื่องรับส่งเฉพาะ mode cw เท่านั้น ได้มีการแก้ไข hardware และเขียน software ให้สามารถใช้งานใน  mode ssb am fm cw ในปี 2019 ได้มีการพัฒนาไปหลายแนวทาง แต่ที่เด่นๆ มีนักวิทยุสมัครเล่น นำไปใช้งานมี 2 รูปแบบ


1.(tr)uSDX โดย DL2MAN ออกแบบให้มีขนาดเล็ก ขนาดกว้างยาว เท่าบัตรเครดิต แบ่งเป็น 2 ส่วน Mainboard และ RF board ใช้อุปกรณ์ R C ชนิด SMD เป็น Mulitmode QRP Transceiver 5-Band


2.uSDX Transceiver โดย WB2CBA  เริ่มต้น ออกแบบให้ทุกอย่างรวมกันใน 1 board ขนาด 10x10cm จากนั้นมีการพัฒนาออกมา 3-4 รูปแบบ ใช้อุปกรณ์ R C แบบดั้งเดิม เป็นตัวๆ ประกอบเองได้ง่าย

ต้นปี 2022  DL2MAN และ PE1NNZ ได้ออก (tr)uSDX มาให้ทดลองใช้กัน ในช่วงแรกจะเป็นการรวมกลุ่มกันสั่งซื้อ PC Board ที่ประกอบอุปกรณ์ smd มาเกือบครบสมบูรณ์ มา DIY กัน มีนักวิทยุสมัครเล่นในยุโรป และอเมริกา สนใจกันหลายกลุ่ม  พอถึงกลางปี 2022 เริ่มมี Official Supplier ใน AliExpress , eBay , Amazon (US) ซึ่งทำเป็นชุดคิท ออกมาจำหน่าย ราคาชุดประกอบสำเร็จพร้อม case 4,657 บาท ราคาชุดคิทไม่มี case 2,898 ก็ถือว่าราคาสูงพอสมควร แต่ถ้ารอได้ จะมีช่วงลดราคา ชุดคิทอาจจะเหลือ 2,300 บาท case เปล่าๆ 500 บาท  ชุดประกอบสำเร็จพร้อม case อาจจะเหลือ 4,000 บาท




(tr)uSDX ชุดคิทมีกี่แบบ ได้อะไรมาบ้าง

Classical Bands Kits ได้ Mainboard + RF board Classical Bands 10m 15m 20m 40m 80m
Hi Bands Kits ได้ Mainboard + RF board Hi Bands 10m 12m 15m 17m 20m
และยังมี RF board Lo Bands 20m 30m 40m 60m 80m แยกขายอีกด้วย
Mainboard จะมี SerialNumber แจ้งมาด้วย จดบันทึกไว้ เวลา up firmware จะต้องใช้
ชุดประกอบสำเร็จพร้อม case มีเฉพาะ Lo Bands 20m 30m 40m 60m 80m

ตัวอย่างชุดคิท Classical Bands

 






แกน toroid ระวังอย่าให้หล่น อาจจะแตกได้ง่ายๆ ในชุดคิท ให้มาเกิน

อ่าน คู่มือการประกอบเครื่อง หลายๆรอบ ต้องทำความเข้าใจเรื่องการพันลวดบนแกน toroid ให้ดี vdo นาที 22.50

เริ่มประกอบ Mainboard 


 เริ่มจาก ไมค์ ตัวเล็กๆก่อน ดูขั้วให้ดีนะครับ มีขั้วบวกเขียนไว้ที่ไมค์ ใส่ลงตรงลูกศรีชี้

อุปกรณ์ถัดไปตามลำดับความสูง จากซ้ายมาขวา มาถึงจอแสดงผล ต้องดัดแปลงก่อน ตอนประกอบใส่แหวนรองสีขาว และชุดน๊อตพลาสติก ความสูงของจอจะอยู่ระดับเดียวกับ แจ๊คไมค์

อุปกรณ์ รองสุดท้ายที่จะประกอบคือ ซีเล็คเตอร์ ให้ตัดเขี้ยว ออกก่อน

ประกอบ Mainboard เรียบร้อยแล้ว

ประกอบ RF Board

เริ่มจาก relay 5 ตัว  ส่วนที่ใช้เวลานานสุดคือ พันคอยล์ toroid

L11 พัน 5 รอบ L12 พัน 4 รอบ พันเสร็จให้ยืดทองแดงให้เต็มวง

ประกอบเสร็จลองป้อนไฟ ไม่มีปัญหาอะไร ค่าต่างๆ ถูกกำหนดไว้เรียบร้อยแล้ว ลองเช็คค่า โดยกดปุ่ม menu แล้วเลื่อนไป menu 8.7 LPF Config ดูค่า RF board ว่าเป็นตามที่เราจัดหามาหรือไม่ Lo , Hi , Classic

ให้ firmware ล่าสุดมาด้วย

อุปกรณ์ที่เหลือ ลวดทองแดงไม่ต้องกังวล พันได้ตามสบาย เหลืออีกเยอะ

Case สั่งมาพร้อมกันก็ดีครับ

 


ถ้ามีประสบการณ์ในการประกอบอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์มาแล้ว ชุดคิท HI Bands , Classical Bands ก็เป็นทางเลือกราคาย่อมเยาว์ ตอนประกอบ มือสั่นมากมาย  แต่ยังไม่จบแค่นี้ ต้องมีการปรับแต่งค่าอีก

ถ้าจับหัวแร้งแล้วมือสั่น  ชุดประกอบสำเร็จดีกว่า พร้อมใช้เลย แพงกว่านิดหน่อย

KE4EST บอกว่า ข้อผิดผลาดในการประกอบคือ ขูดน้ำยาอาบลวดทองแดงไม่หมด ทำให้บัดกรีไม่ติด


NanoVNA-H upgrade firmware

NanoVNA-H ที่ซื้อมา firmware เป็นเวอร์ชั่น 1.1 อันที่จริงเครื่องก็ทำงาน วัดค่าได้ปกติ  แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชั่นอะไรใหม่ๆ ก็ต้อง up firmware ปัจจุบันเดือน 11 ปี 2023 เป็นเวอร์ชั่น 1.2.20

คำแนะนำการ upgrade เว็บ nanovna.com   หรือจะดูจาก youtube ก็ได้ อธิบายได้ละเอียดดี

วิธีดูเวอร์ชั่น ใน NanoVNA

MAINMENU <> CONFIG <> VERSION


download software DFU และติดตั้ง
https://www.st.com/en/development-tools/stsw-stm32080.html?s_searchtype=keyword  
ต้องลงทะเบียน อีเมล์ ก่อน แล้วเปิดอีเมล์ เพื่อ download

ถ้าไม่อยากลงทะเบียน ไป download ได้ที่
http://data.georadis.com/data/d230av2/upgrade/  
ไฟล์ชื่อ DfuSe_Demo_V3.0.6_Setup.exe

download firmware
https://github.com/DiSlord/NanoVNA-D/releases
1.2.20 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ณ.เดือน 11 ปี 2023 


เปิดโปรแกรม

เสียบสาย USB จาก NanoVNA เข้าคอมพิวเตอร์

ที่ NanoVNA เข้าเมนู  MAINMENU <> CONFIG <>DFU <> RESET AND ENTER DFU หน้าจอจะไม่แสดงอะไร เพราะว่าเข้าสู่โหมด DFU

ถ้าโปรแกรมมองเห็น NanoVNA จะขึ้นเป็นแบบนี้  ถ้าไม่เห็นต้อง update driver ก่อน

คลิก Choose เลือกไฟล์ firmware 

ไฟล์พร้อมแล้ว คลิก Upgrade

มีการเตือน คลิก Yes


Upgrade สำเร็จ ไปดูเวอร์ชั่น ใน NanoVNA


วัดค่าLoss Coaxial ด้วย Nano VNA

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถคำนวณค่า loss ของสาย Coaxial ได้จาก spec ของสายว่า loss กี่ db ต่อ 100 เมตร ( db/100m) 

แต่การวัดค่า loss ด้วยเครื่องมือ จะทำให้เราทราบค่าที่แท้จริง ว่าสายที่เข้าหัวคอนเน็คเตอร์ แล้วนั้นมีค่า loss โดยรวมเท่าไร

เริ่มต้นต่อสายให้เรียบร้อย  แล้วทำการ Reset Nano VNA ก่อน อ่านบทความก่อนหน้านี้



เลือกค่า Trace เป็น S21 LOGMAG

ใช้ pick หรือ stylus ที่แถมมากับเครื่อง แตะที่หน้าจอจะขึ้น เมนู

คลิกเมนู DISPLAY <> TRACE <> คลิก TRACE0  2ครั้ง สังเกตุเส้นเหลืองจะหายไป  ทำเหมือนกันกับ TRACE2 TRACE3  ให้คงเหลือ TRACE1  <> คลิก STORE TRACE


 

ตั้งค่าย่านที่ต้องการวัด 144MHz - 147MHz

CALIBRATE เครื่อง พร้อมสายนำสัญญาณ

คลิก   CALIBRATE <> CALIBRATE <> คอนเน็คเตอร์ ปลายสายปล่อยลอยๆ ไว้ <> คลิก OPEN

ทำตามขั้นตอน  CALIBRATE  OPEN <> SHORT <> LOAD <> ISOLN ก่อนจะทำ THRU เชื่อมสายทั้งสองเส้นเข้าด้วยกัน <> แล้วคลิกที่ DONE จบการ CALIBRATE   แล้วคลิกที่ SAVE 0 บันทึกค่าไว้

สังเกตุค่า db ที่วงกลมไว้ จะมีค่าใกล้เคียง 0 db

ต่อสายเข้ากับ สายนำสัญญาณที่ต้องการวัดค่า loss จะแสดงค่าออกมา

สายที่นำมาทดสอบวัด เป็น RG-58/U ยาว 5 เมตร 

RG–58 ยาว 100 เมตร ความถี่ 145 MHz สูญเสีย = 18.6 dB  ยาว 5 เมตร สูญเสีย = (5/100) x 18.6 = 0.93 dB (-0.93)

วัดค่า SWR ด้วย Nano VNA

Nano VNA เป็นตัวช่วยงานด้าน RF ที่มีขนาดเล็ก แต่การใช้งานมีครบทุกอย่างที่ต้องใช้ เหมาะกับมือสมัครเล่นอย่างเรา เป็นเครื่องที่ราคาไม่แพง ทุกคนเข้าถึงได้

CHEAPEST Nano VNA. How to use and improve your antenna's performance.   
Stop Wasting Your Money, Get A NanoVNA!   
NanoVNA Calibration: Expert Tips and Tricks  

วัดค่า SWR ด้วย Nano VNA จะแสดงผลออกมาเป็นกราฟ ทำให้ง่ายต่อการปรับแต่งค่า

Reset Nano VNA เริ่มต้นจากตรงนี้ เนื่องจากเราอาจจะจำไม่ได้ว่า ได้ตั้งค่าอะไรไว้บ้าง CLEAR แล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่า

ใช้ pick หรือ stylus ที่แถมมากับเครื่อง แตะที่หน้าจอจะขึ้น เมนู

เลือกเมนู CONFIG <> EXPERT SETTINGS <> MORE <> CLEAR CONFIG <> CLEAR ALL AND RESET





ตั้งการวัดค่า SWR

ใช้ pick หรือ stylus ที่แถมมากับเครื่อง แตะที่หน้าจอจะขึ้น เมนู

เลือกเมนู DISPLAY <> FORMAT <> SWR เรียบร้อย สังเกตุที่ S11 สีเหลือง จะเปลี่ยนจาก LOGMAG เป็น SWR


 




ลบ TRACE Line
ลบเส้นแสดงผลที่ไม่เกี่ยวข้อง

คลิกเมนู DISPLAY <> TRACE <> คลิก TRACE1  2ครั้ง สังเกตุเส้นสีฟ้าจะหายไป  ทำเหมือนกันกับ TRACE2 TRACE3 <> คลิก STORE TRACE


ตั้งค่า SCALE ต่อช่อง

คลิกเมนู DISPLAY <> SCALE <> ติก SHOW GRID VALUES

คลิกเมนู DISPLAY <> SCALE <> SCALE/DIV <> ใส่ค่า 0.1 <> คลิก ENT

 
กำหนดช่วงความถี่ 

ใช้ pick หรือ stylus ที่แถมมากับเครื่อง แตะที่หน้าจอจะขึ้น เมนู

คลิกเมนู STIMULUS <> คลิก START <> ป้อนความถี่เริ่มต้น ในที่นี้คือ 144.00 MHz



คลิกเมนู STIMULUS <> คลิก STOP <> ป้อนความถี่สิ้นสุด ในที่นี้คือ 147.00 MHz


เตรียมสายนำสัญญาณที่จะต่อระหว่างสายอากาศและ Nano VNA

ใช้สายเท่าที่จะหาได้ เป็นชุดสาย RG58 ที่ใช้สำหรับติดตั้งในรถยนต์  ยาว 5 เมตร ตัวต้านทาน 50 โอห์ม ต่อที่ปลายสายด้านเข้าสายอากาศ  เราจะ CALIBRATE สายทั้งชุดนี้ ของจริงให้คลี่สาย RG58ออก ไม่ให้ม้วนแบบนี้


 CALIBRATE เครื่อง พร้อมสายนำสัญญาณ

ใช้ pick หรือ stylus ที่แถมมากับเครื่อง แตะที่หน้าจอจะขึ้น เมนู

คลิก   CALIBRATE <> CALIBRATE <> คอนเน็คเตอร์ ปลายสายปล่อยลอยๆ ไว้ <> คลิก OPEN



CALIBRATE  OPEN แล้ว เมนู จะให้ทำการ CALIBRATE SHORT ต่อไป

<> CALIBRATE <> คอนเน็คเตอร์ ปลายสายต่อเข้าด้วยกัน <> คลิก SHORT

CALIBRATE  SHORT แล้ว เมนู จะให้ทำการ CALIBRATE LOAD ต่อไป


<> CALIBRATE <> คอนเน็คเตอร์ ปลายสายต่อ LOAD 50 ohm <> คลิก LOAD

แล้วคลิกที่ DONE จบการ CALIBRATE   แล้วคลิกที่ SAVE 0 บันทึกค่าไว้


ถ้าแตะที่หน้าจอ แล้วเลือกเมนู RECALL จะเป็นแบบนี้

ต่อสายนำสัญญาณ เข้าสายอากาศ


ผลการวัดออกมาครั้งแรก ถ้าได้แบบนี้ กำลังดี SWR ไม่เกิน 1.5 ตลอดย่าน


ปรับไปมา กลายเป็นแบบนี้ ปรับกลับให้เหมือนเดิมไม่ได้  แต่เราก็จำไว้ว่า ปลายๆ ใกล้ๆ 147 MHz SWR สูง

ต่อเข้ากับสาย Heliax 1/2 นิ้ว ยาว 20 เมตร วัดปลายด้านเข้าวิทยุ ค่าเปลี่ยนไป ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมว่าเป็นเพราะอะไร

3 พ.ย.2567

นำสายอากาศมาปรับแต่งค่า โดยวัดผ่าน สาย Heliax 1/2 นิ้ว ยาว 20 เมตร


วัดด้วย SWR meter
144.050 = 1.3
144.500 = 1.4
145.070 = 1.5
145.650 = 1.8
146.000 = 1.9

นำสายอากาศติดปลายเสาความสูง 6 เมตร วัดด้วย SWR meter ดีขึ้นเยอะเลย
144.050 = 1.15
144.500 = 1.2
145.070 = 1.4
145.650 = 1.65
146.000 = 1.8