ลงทะเบียนระบบ D-Star

ลงทะเบียน CallSign ของเราในระบบ D-Star เพื่อให้ติดต่อสื่อสารได้สมบูรณ์แบบ ถ้าไม่ลงทะเบียนก็ยังสามารถรับฟังได้

คู่มือการลงทะเบียน ลองอ่านและดู youtube เพื่อทำความเข้าใจ
D-STAR Registration Instructions ภาษาอังกฤษ
การลงทะเบียนใช้งานระบบ D-STAR  
ลงทะเบียนใช้งานระบ D-STAR กับ dstargateway.org (youtube)

การลงทะเบียน D-Star เขาให้ลงทะเบียนเพียงแห่งเดียว ในไทย ก็มีให้ลงทะเบียนเหมือนกัน แต่แนะนำให้ไปลงทะเบียนในระบบกลาง น่าจะดีกว่า ตามคำแนะนำใน youtube ที่สำคัญ อนุมัติ เร็วมาก 

https://regist.dstargateway.org/LogoutAction.do คลิก link นี้


หน้านี้ทำได้หลายอย่าง Login เข้าใช้งาน / ลงทะเบียนใหม่ / ลืมpassword /ตรวจสอบการลงทะเบียน
คลิกที่ Register


ป้อนข้อมูลลงไป โดยเฉพาะ email ต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง password อย่าลืมจดไว้ด้วย คลิก OK


ตรวจสอบและยืนยันอีกครั้ง
ผมส่งข้อมูลไป วันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 05.08 น.


อนุมัติลงทะเบียนได้รวดเร็วมาก เวลา 05.20 น. ได้รับ email ตอบกลับ 

เนื้อหาในอีเมล์ คล้ายๆ กับที่เราอ่านใน คู่มือการลงทะเบียน 

วรรคสุดท้าย ถ้าไม่มีการ login เข้าไปแก้ไขในระบบ เพื่อเพิ่ม terminal ภายใน 2 สัปดาห์ ข้อมูลที่เราขอลงทะเบียนไว้ จะถูกยกเลิก 

กลับไปที่หน้า https://regist.dstargateway.org/LogoutAction.do  


login เข้าระบบด้วย CallSign และ password ที่เราตั้งไว้

Login เข้ามาแล้ว ให้คลิกที่ Personal Information


ติก ข้อ 1 ในช่อง initial เคาะ space 1 ครั้ง
ติก ข้อ 2 ในช่อง initial พิมพ์ Z ตัวใหญ่ลงไป ติก AccessPoint ด้วย
แล้วคลิก Update


หลังจาก Update หน้าตาเป็นแบบนี้

ตรวจสอบการลงทะเบียน เข้าหน้าแรกเหมือนเดิม


ป้อน CallSign เข้าไป แล้วคลิก Submit


ถ้าแสดงแบบนี้ สมบูรณ์ พร้อมใช้งานแล้ว


D-Star Hotspot

Repeater D-Star ที่ กสทช. วางเครือข่ายไว้ ณ.ปี 2568 มี 31 จังหวัด รัศมี การออกอากาศ ไม่แน่ใจว่า ไกลขนาดไหน เครื่องลูกข่ายที่พอหาได้ในไทย ส่วนใหญ่เป็นแบบ มือถือ ID-51E-T (5000 บาท) ID-50A (14,000 บาท) ID-52 ( 23,500 บาท) แบบ ติดรถยนต์ ID-5100A (23,500 บาท)  แบบแพงไปเลยก็ IC-705 , IC-9700

ทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อระบบ D-Star แต่อยู่ห่างไกลจาก Repeater คือ D-Star Hotspot เปรียบเสมือน Repeater เล็กๆ เชื่อมต่อผ่าน อินเตอร์เน็ต ไปยังเครือข่าย D-Star

อุปกรณ์หลักที่ใช้เชื่อมโยง คือ MMDVM ย่อมาจาก Multi-Mode Digital Voice Modem เป็น repeater ขนาดเล็กกำลังส่งต่ำ ระดับ 10 mW ทำหน้าที่่เชื่อมวิทยุแบบ Digital เข้ากับ เครื่อข่าย Digital D-STAR, DMR, P25, C4FM, YSF, และ NXDN

MMDVM มีหลายแบบ แต่ที่เห็นบ่อยที่สุด จะเป็นแบบนี้  ได้มาราคา 328 บาท

ขอมูลจากเว็บ VK4PK วงจรของบอร์ด ประมาณนี้

MMDVM_HS Hat for the Raspberry Pi (Zero)  
source code of ZUMspot/MMDVM_HS  
JumboSpot มีวิธี UP Frimware MMDVM 

การเชื่อมต่อเข้าระบบ D-Star ทำได้หลายช่องทาง
1.เชื่อมผ่าน Serial to USB เข้าคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรม BLUEDV
2.เชื่อมผ่าน BlueTooth เข้าโทรศัพท์ ใช้แอป BLUEDV
3.เชื่อมเข้าคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว Raspberry Pi ZERO 2W โปรแกรม Pi-Star
4.เชื่อมเข้าคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว Raspberry Pi ZERO 2W โปรแกรม WPSD



1.เชื่อมผ่าน Serial to USB เข้าคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรม BLUEDV
Serial to USB ใช้แบบ CP2102 ราคาประมาณ 80 บาท แบบเดียวกันนี้ สีดำก็มี วิธีนี้ผมต้องการ จะทดสอบ MMDVM ที่ซื้อมาว่าใช้งานได้หรือไม่ กับอุปกรณ์ที่มีอยู่ ถ้าใช้งานจริงจัง ไปใช้แบบที่ 3 น่าจะเหมาะสมกว่า

ติดตั้ง Driver ให้ CP2102 download ที่เว็บ Silicon Labs   



Unzip แล้วติดตั้งไฟล์ .exe


ติดตั้งเรียบร้อย สังเกตุ comport ไว้ แต่ละเครื่องไม่เหมือนกัน

Configure MMDVM hotspot with BlueDV ดู youtube วิธีการต่อ MMDVM กับ Serial to USB ใช้สาย 4 เส้น 3.3V , GND ต่อกันตรงๆ  TXD , RXD ต่อสลับระหว่างกัน / วิธีติดตั้ง BlueDV  ส่วนวิธี ตั้งค่า D-Star ไปดูด้านล่าง


สาย TX , RX ถ้าต่อผิด โปรแกรม BlueDV จะไม่ให้เราเลือกโหมด DSTAR , DMR เลื่อนปุ่มไม่ได้เลย ให้ทดลองสลับสาย TX , RX

Download BlueDV เพื่อที่จะติดตั้งบน windows จาก https://software.pa7lim.nl/BlueDV/BETA/Windows/ รายละเอียดอ่านในเว็บ https://www.pa7lim.nl/bluedv/ หรือ https://www.pa7lim.nl/bluedv-windows-radio/ 


Unzip แล้วติดตั้ง


ไปที่ Menu <> Setup


หน้า Setup ที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขอะไร


ลองตั้งค่าตามนี้ You Call ต้องใส่ CallSign ด้วย มิฉะนั้นจะไม่ยอม Link ไป REF087C แล้ว Save


อย่าลืม update ข้อมูลด้วย update ทุกอัน



เปิดโปรแกรม ครั้งแรก ถ้ามีหน้าจอนี้ คลิก Allow access


Hotspot พร้อมใช้งาน มีการเชื่อมโยงไปยัง REF087C

เครื่องวิทยุ ID-51E-T  ผม Reset / ALL  แล้วอยู่ในโหมด VFO ตั้งความถี่ 145.550MHz โหมดการทำงานเป็น DV ตั้งกำลังส่งเป็น SLO 


ลองกดส่ง ได้ผลลัพท์ตามรูป


รับฟังการติดต่อสื่อสาร ได้แล้ว สำเร็จไปครึ่งทาง

ไปลงทะเบียน CallSign ในระบบ D-Star ให้เรียบร้อย แล้วค่อยกลับมาทดลองต่อ


2.เชื่อมผ่าน BlueTooth เข้าโทรศัพท์ ใช้แอป BLUEDV

Configure MMDVM with Bluetooth and BlueDV 
portable hotsport with blueDV / youtube 

3.เชื่อมเข้าคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว Raspberry Pi ZERO 2W โปรแกรม Pi-Star 

วิธีนี้ เป็นที่นิยมสร้างกัน เพราะเป็นชุดที่สมบูรณ์ในตัว หาไฟจ่ายให้ และเชื่อมอินเตอร์เน็ต ก็ใช้งานได้แล้ว

GETTING ON DIGITAL VOICE AND BUILDING 
MMDVM Hotspot complete beginners setup guide ดูวิธีประกอบ hardware 
MMDVM DMR Raspberry Pi Hotspot Assembly & Basic Setup
วิธีทำฮอตสปอต Pi-Star Digital ใช้งานระบบ D-STAR 


Raspberry Pi Zero 2W แบบไม่มี ขาเชื่อมต่อ ได้มาตอนมีส่วนลด เหลือ 589 บาท 

เตรียมไฟล์ และโปรแกรม สำหรับเขียน ข้อมูลลง SD Card

1.โปรแกรม Raspberry Pi Imager download แล้วติดตั้งบนคอมพิวเตอร์
2.Pi-Star เวอร์ชั่นล่าสุด Pi-Star_RPi_V4.2.3_18-Apr-2025.zip download แล้ว unzip
3.Pi-Star WiFi Builder ได้ไฟล์ wpa_supplicant.conf สำหรับเชื่อมกับ wifi บ้าน 

เริ่มต้นเขียนข้อมูลลงใน SD Card

เปิดโปรแกรม Raspberry Pi Imager  


ซ้ายสุด เลือก Raspberry Pi Zero 2W  ขวาสุดเลือก SD Card ตรงกลางเลือก ไฟล์ Pi-Star ดังนี้


เลือก Use custom 


เลือกไฟล์ Pi-Star คลิก Open

จากนั้น คลิก NEXT


ไม่แก้ไขอะไร คลิก NO


จะเขียนไฟล์ลง SD Card แล้ว ยืนยันหน่อย


เขียนอยู่นานเหมือนกัน เสร็จแล้ว คลิก CONTINUE


ถ้ามี แบบนี้ขึ้นมา คลิก Cancel


Copy ไฟล์ wpa_supplicant.conf ที่ทำไว้มาลงใน Drive ที่ชื่อว่า boot แล้วค่อยถอด SD Card ออก


บัดกรี คอนเน็คเตอร์ ที่ได้มาพร้อม MMDVM ลงบน บอร์ด Raspberry Pi Zero 2W 


ประกอบ MMDVM ลงบน บอร์ด Raspberry Pi Zero 2W ใส่ SD Card หาสาย Micro USB มาเสียบ เพื่อจ่ายไฟ 5 Volt 

เปิด browser พิมพ์ http://pi-star/admin เข้าไป ถ้า Hotspot ของเราเชื่อมต่อกับ wifi ได้ จะขึ้นให้ login
หลังจากเข้าหน้า config ได้แล้ว เลื่อนลงไปดู IP Address และจดค่าไว้ใช้ในครั้งต่อๆไป


Default Username: pi-star
Default Password: raspberry


เข้ามาหน้า config ได้แล้ว ก็ประกอบใส่กล่อง แล้วเปิด hotspot อีกครั้ง พบปัญหา หน้า config เข้าไม่ได้ เป็นหน้า blank ขาวๆ ว่างๆ ก็เลยลองเขียน SD Card ใหม่


ป้อนข้อมูล
CallSign
Radio Frequency : 145.550 MHz
พิกัด , Town , Country , URL จะใส่ข้อมูล หรือไม่ ก็ได้
System Time Zone เลือกเป็น Asia/Bangkok
คลิก Apply Changes    hotspot จะ reboot ครั้งที่ 1



เลือก D-Star Mode
MMDVM Display Type เลือก OLED Type 3   Port : None

Radio/Modem Type เลือก MMDVM_HS_Hat (DB9MAT & DF2ET) for Pi (GPIO) หรือ STM32-DVM / MMDVM_HS - Raspberry PI (GPIO)
คลิก Apply Changes    hotspot จะ reboot ครั้งที่ 2

Default Reflector เลือก REF087 C
Time Announcements ถ้าไม่ต้องการเสียงเตือนทุก ชั่วโมง ให้ปิด
คลิก Apply Changes    hotspot จะ reboot ครั้งที่ 3

Hotspot ใช้งานได้แล้ว รอเชื่อมไป REF087C นานนิดหน่อย

หน้า Dashboard


หน้า Dashboard Admin


จอ OLED ถ้าต้องการให้ติดตลอดเวลา และ กลับด้านหน้าจอ ตั้งค่าดังนี้

หน้าจอ Configuration คลิก Expert


คลิก MMDVMHost 


เลื่อนหา OLED  ถ้าต้องการให้จอติดตลอด LogoScreensaver = 1 / กลับด้านหน้าจอ Rotate = 1
แล้วคลิก Apply Changes

สิ่งสำคัญที่ควรทำ คือ เปลี่ยน Password ของ login pi-star  ไปหน้า config เลื่อนลงไปล่างสุด ป้อน password ใหม่ 2 ช่อง ให้ตรงกัน แล้วคลิก Set Password




4.เชื่อมเข้าคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว Raspberry Pi ZERO 2W โปรแกรม WPSD

เตรียมไฟล์ และโปรแกรม สำหรับเขียน ข้อมูลลง SD Card

1.โปรแกรม Raspberry Pi Imager download แล้วติดตั้งบนคอมพิวเตอร์
2.WPSD เวอร์ชั่นล่าสุด  download ไว้ที่ใดสักแห่ง

3.WPSD WiFi Configuration Generator ได้ไฟล์ xxxx.nmconnection สำหรับเชื่อมกับ wifi บ้าน 


เริ่มต้นเขียนข้อมูลลงใน SD Card

เปิดโปรแกรม Raspberry Pi Imager  เลือกไฟล์ image แล้วเขียนได้เลย


Copy ไฟล์ xxxx.nmconnection ที่ทำไว้มาลงใน Drive ที่ชื่อว่า boot แล้วค่อยถอด SD Card ออก


เสียบ SD Card ใส่ Hotspot เปิดเครื่องไว้สัก 5 นาที
เปิด browser พิมพ์ http://wpsd.local เข้าไป ถ้า Hotspot ของเราเชื่อมต่อกับ wifi ได้ จะเข้าไปหน้า Config


WPSD จะแจ้ง IP Address ที่ hotspot ด้วย


หน้าแรก ที่เข้ามาเจอ ก่อนการ Config


แก้ไขค่า 
General Configuration 
Node Callsign : ป้อน Callsign ของเราลงไป
Radio Frequency: ป้อนความถี่
Radio/Modem Type: เลือก MMDVM_HS_Hat (DB9MAT & DF2ET) for Pi (GPIO) หรือ STM32-DVM / MMDVM_HS - Raspberry PI (GPIO)
System Time Zone เลือก Asia/Bangkok

สังเกตุด้านบนจะมีปุ่ม Apply Changes แต่ยังไม่ต้องกดตอนนี้

Node Location & Info Settings ข้ามไปก่อน


Radio/MMDVMHost Modem Configuration 
เปิด D-Star Mode :


MMDVMHost/Modem Display Configuration
MMDVM Display Type : เลือก OLED Type 3


ตอนนี้ คลิก Apply Changes ได้แล้ว

Hotspot Reboot เข้ามาหน้า config อีกครั้ง


จะมี D-Star Configuration เพิ่มขึ้นมา ตั้งค่า Default Reflector ผมเลือกเป็น REF087E เอาไว้ Test เสียงตัวเอง

คลิก Apply Changes เป็นครั้งที่ 2
Hotspot Reboot เข้ามาหน้า config อีกครั้ง


ด้านบนของหน้า Config จะให้เราตั้ง Profile


ก็เลยตั้งชื่อเป็น dstar 

อย่าลืมเปลี่ยน password ด้วย

ถึงตอนนี้ ผม reboot hotspot โดยถอดปลั๊กไฟ แล้วรอ 5 นาที จะมีเสียง Link to REF087E ดังที่วิทยุ


WPSD Dashboard  หน้าตาแบบนี้